อาหารของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

     เบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับจากอาหารมาเป็นพลังงานและส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ หากมีน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานโดยไม่ควบคุมจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น จอประสาทตาเสื่อม ไตวาย อาการชาปลายมือและปลายเท้า รวมไปถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด

     ถึงแม้ว่าเบาหวานจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและในปริมาณที่พอดีเพื่อรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและใช้ยาตามคำสั่งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันโรคอื่น ๆ ที่จะเข้ามาแทรกซ้อน

อาหารที่ควรเลี่ยง

- ข้าว หรือ อาหารประเภทเส้น

แป้งและน้ำตาลจัดเป็นอาหารในประเภทคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นข้าวหรือเส้นที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันนั้นก็เป็นหนึ่งในการทำให้เราเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

- ขนมปัง

ขนมปังต่าง ๆ ทั้งขนมปังหลาย ๆ ประเภทและหลากหลายไส้ในร้านเบเกอรี่ ขนมปัง พาย พิซซ่าหรืออาหารที่มีส่วนหลักเป็นแป้ง ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก ถ้าเรารับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน

- อาหารรสจัด

อาหารในประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องรสชาติจัดจ้านอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราเพิ่มการปรุงที่ได้รสชาติที่ชอบแล้วนั้นยิ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน เพราะอาหารรสจัดบางทีรสชาติของความเค็มหรือเปรี้ยวมากลบความหวานที่ซ่อนอยู่ทำให้เราคิดว่าไม่หวาน รู้ตัวอีกทีก็เป็นโรคเบาหวานแล้ว

ผลไม้ที่ควรเลี่ยง

- มะม่วง

มะม่วงสุกหรือมะม่วงดิบก็มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะมะม่วง 1 ผลนั้นเท่ากับมีปริมาณน้ำตาลถึง 13.45 กรัม

- กล้วย

กล้วยในแต่ละสายพันธุ์จะมีน้ำตาลที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเทียบในปริมาณ 100 กรัมแล้ว กล้วยไข่มีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 34.1 เปอร์เซ็นต์, กล้วยหอม 31.4 เปอร์เซ็นต์, กล้วยหักมุก 26.3 เปอร์เซ็นต์และกล้วยน้ำว้า 26.1 เปอร์เซ็นต์

- อินทผลัม

อินทผลัมผลไม้ที่สามารถดับร้อนหวานเย็นชื่นใจในหน้าร้อน นิยมนำมาตากแห้งแล้วรับประทานเล่น หรือ กินดิบ ๆ ก็ได้ ประมาณอินทผลัม 100 กรัม มีน้ำตาลสูงถึง 55.30 กรัม ซึ่งถือว่าสูงมาก

- องุ่น

องุ่นผลไม้ที่หาซื้อกินได้ง่ายเม็ดเล็ก ๆ แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าองุ่นปริมาณ 100 กรัม มีน้ำตาลสูงถึง 16 กรัม

ทำไมอาหารและผลไม้เหล่านี้ถึงเสี่ยงโรคเบาหวาน

อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในระหว่างกระบวนการย่อยอาหารได้เพื่อดูดซึมไปใช้งานเป็นพลังงานให้กับร่างกาย หากเรารับประทานเกินความจำเป็นก็จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายของเราหรือในเลือดนั้นสูงและทำให้ร่ากายเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้ สำหรับใครที่เป็นกังวลในการจะรับประทานคาร์โบไฮเดรต เราสามารถรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซอนได้ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ฯลฯ อาหารพวกนี้จะช่วยลดการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลช้าลงและเพิ่มกากใยอาหารในร่างกายให้เรามากยิ่งขึ้น

โรคแทรกซ้อนที่มาพร้อมกับโรคเบาหวาน

- โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นภาวะต้านอินซูลินที่รุนแรงจะทำให้ตับอ่อนไม่สามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลงได้ ระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้น

- โรคหัวใจ

อาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นสาเหตุของการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะน้ำตาลมีผลต่อกระบวนการสูบฉีดของหัวใจ เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ ไขมันเลว กลูโคสและอินซูลินในกระแสเลือด

- ไขมันพอกตับ

เมื่อตับสังเคราะห์ฟรักโทสให้กลายเป็นไขมันแล้วก็จะนำไปเก็บไว้ตามร่างกายต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ตับ

- ไขมันในเลือดสูง

เมื่อรับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมาก ๆ จะเกิดการสะสมของไตรกลีเซอไรด์ขึ้นในร่างกายทำให้ปริมาณไขมันในเลือดสูงขึ้นไปด้วย

- โรคอ้วน

การที่เรารับประทานของหวานหรืออาหารที่มีรสชาติหวานจะทำให้เรายิ่งรู้สึกหิวมากขึ้นกว่าเดิมและไม่รู้สึกอิ่ม จะทำให้กินเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอทำให้น้ำหนักตัวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

- ความดันโลหิตสูง

น้ำตาลทำให้ฮอร์โมนแคทีโคลามีนและกรดยูริกสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง

- ไมเกรน

น้ำตาลที่อยู่ในอาหารหรือขนมหวานต่าง ๆ เป็นสิ่งที่กระตุ้นการเกิดไมเกรน

- ฟันผุ

น้ำตาลนั้นย่อยง่าย แบคทีเรียในปากจึงสามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การเกิดปัญหาต่าง ๆ ในช่องปาก

- มะเร็ง

อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ใช้ควบคุมการเจริญเติบโตและเป็นการเพิ่มเซลล์มะเร็ง การเพิ่มอินซูลินและระดับอินซูลินที่ไม่คงที่จะทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเป็นไปได้อย่างง่ายในร่างกาย

- โรคกระดูกเปราะ

น้ำตาลสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดและทำให้เกิดความไม่สมดุลของเลือด เมื่อเลือดของคุณมีความเป็นกรดมากขึ้น ร่างกายจึงต้องปรับสมดุลโดยการดึงแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในกระดูกมาใช้แทน

     น้ำตาลนั้นก็เหมือนสารเสพติดชนิดหนึ่งเพราะความหวานจะเข้าไปกระตุ้นการหลั่งโดพามีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุขทำให้เกิดการเสพติดและรู้สึกอยากรับประทานของหวานอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรการบริโภคของหวานมากเกินที่ปริมาณที่เหมาะสมแล้วนั้นก็เป็นบ่อเกิดของโรคต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย กังนั้นลองลดของหวานหรือถ้าอยากรับประทานของหวานมากให้ลองหาน้ำตาลจากธรรมชาติ เช่น น้ำหวานดอกมะพร้าว (coconut syrup) ไปเป็นส่วนประกอบในการรับประทานอาหารหรือขนม เพราะน้ำหวานดอกมะพร้าว (coconut syrup) นั้นมีระดับน้ำตาลที่ไม่สูงทำให้ใครหลาย ๆ คนปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนได้มากขึ้นค่ะ

น้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Syrup By ManNature)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

“น้ำตาล” กินอย่างไรให้ไม่อ้วน

เคล็ดลับคุม “โรคเบาหวาน”