เรารู้ว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่หลงใหลกับความหวาน รวมทั้งความหวานจากน้ำตาลด้วย หากคุณจะเหลียวมองสักนิดถึงภัยที่แอบแฝงอยู่ในความหวานเมื่อคุณได้รับในปริมาณที่มากเกินไป น้ำตาลทิ้งผลพลอยได้แห่งโรคอ้วน ความดันเลือดสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ปวดท้อง และฟันผุไว้ให้คุณ
น้ำตาล ( Sugar ) ก็คือ คาร์โบไฮเดรตที่มีรสหวาน ประกอบด้วย คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน
มีการแบ่งคาร์โบไฮเดรตตามลักษณะของโมเลกุลออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. น้ำตาลชั้นเดียว เป็นคาร์โบไฮเดรต ที่มีโมเลกุลเล็กที่สุด ถูกดูดซึมได้เลยโดยไม่ต้องย่อย มีรสหวาน ได้แก่ กลูโคส (glucose) และฟรักโทส (fructose) พบได้ในผัก ผลไม้ น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เป็นต้น กลูโคสเป็นน้ำตาลชนิดเดียวที่อยู่ในกระแสเลือดของคนปกติ
2. น้ำตาลสองชั้น ได้จากการผสมผสานของน้ำตาลชั้นเดียว 2 โมเลกุล เมื่อกินน้ำตาลสองชั้นเข้าไปต้องถูกย่อยโดยเอนไซม์ในทางเดินอาหารให้เป็นน้ำตาลชั้นเดียวเสียก่อนจึงจะดูดซึมได้ น้ำตาลสองชั้นที่สำคัญ ได้แก่ ซูโครส ( sucrose ) หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ น้ำตาลทรายชนิดต่างๆ หรือน้ำเชื่อมที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง เราจะพบแล็กโทส (l actose ) ในนมเท่านั้น ส่วนมอลโทส ( maltose ) ไม่เกิดอย่างอิสระในธรรมชาติ ได้จากการย่อยสลายน้ำตาลหลายชั้นโดยเอนไซม์ เช่น การย่อยแป้ง และในเมล็ดธัญพืชที่กำลังงอก
3. น้ำตาลหลายชั้น เป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ และซับซ้อน เกิดจาก น้ำตาลชั้นเดียวจำนวนมาก มารวมตัวกัน ความจริงไ ม่ควรเรียกว่า น้ำตาล เพราะไม่มีรสหวายเลย ได้แก่ ไกลโคเจน ที่มีในคนและสัตว์ เซลลูโลสและแป้งที่พบในพืช เป็นต้น น้ำตาลหลายชั้นย่อยสลาย จะได้กลูโคส
ชนิดของน้ำตาล
คุณเคยรู้ไหมว่า น้ำตาลที่คุณลิ้มรสหวานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแบ่งออกเป็นกี่ชนิด คือ น้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ และน้ำตาลเทียม
น้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติที่เรารู้จักกันดี คือ น้ำตาลทราย นั่นเอง ซึ่งแบ่งตามคุณสมบัติได้เป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
1. น้ำตาลทรายดิบ มีความชื้นสูง และยังไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการฟอกสี และทำให้มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น
2. น้ำตาลทรายสีรำ มีความชื้นน้อยกว่าน้ำตาลทรายดิบ แต่มีเหล็ก และแคลเซียม สูงกว่าน้ำตาลชนิดอื่น
3. น้ำตาลทรายขาว มีความบริสุทธิ์สูง เป็นที่นิยมซื้อขายตามท้องตลาดทั่วไป
จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนารูปแบบของน้ำตาลออกไปเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย ซึ่งก็ได้แก่ น้ำตาลผงที่ใช้แต่งหน้าขนมเค้กและทำไส้ครีม น้ำตาลก้อนที่ใช้เติมในชา กาแฟ มีความแตกต่างในเรื่องรูปแบบของน้ำตาลอีกประเภทหนึ่ง คือ น้ำตาลที่ไม่ตกผลึก เช่น น้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าว หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลปึก
ส่วนน้ำตาลเทียม ซึ่งเป็นสารเคมีที่สังเคราะห์ขึ้นนั้น ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ และไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ให้รสหวานดุจเดียวกับน้ำตาล เหมาะสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน และสมบูรณ์เกินไป (อ้วน) น้ำตาลเทียมให้ความหวาน มากกว่าน้ำตาลหลายเท่าตัว จึงมีหลายคนนำมาใช้ใ นอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งมีหลากหลายชนิดด้วยกัน ที่เราคุ้น ๆ ตากัน ได้แก่ ไซคลาเมต คัสซิน แซ็กคาริน (ขัณฑสกร) แอสปาแทม และสตีวิโอไซด์
ในปัจจุบัน น้ำตาลเทียม ถูกควบคุมในการใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร เนื่องจาก พบว่าการใช้ น้ำตาลเทียม ในปริมาณที่มากเกินกำหนด มีผลทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำหวาน ดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Syrup By ManNature )
ขอบคุณข้อมูลจาก Doctor
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
Tag :
บทความที่แนะนำ