น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร


น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) นับว่าเป็น น้ำหวาน ที่มีความเข้มข้นของ ดอกมะพร้าว ที่ได้จาก ธรรมชาติ อย่างแท้จริง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการผลิต โดยใช้ส่วนผสมจาก ดอกมะพร้าว และไม่มีการแต่งกลิ่น ไร้วัตถุกันเสีย ไม่เติมสี

 

น้ำตาลธรรมชาติคือ น้ำตาลทราย หรือ ซูโครส คือ น้ำตาลทรายขัดขาวบริสุทธิ์ ซึ่งจะเป็นก้อนผลึกเล็ก ๆ ให้ความหวานได้ 100% จัดอยู่ใน ประเภท ของอาหารทั่วไป ที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. ก็สามารถ นำมาใช้ปรุงอาหาร ได้อย่างปลอดภัย โดยสำหรับ  โครงสร้างของน้ำตาลชนิดนี้ ก็จะประกอบไปด้วย น้ำตาลทราย 2 ชนิด ได้แก่ กลูโคส และฟรุคโตส ซึ่งเมื่อทาน น้ำตาลชนิดนี้เข้าไป ร่างกายจะ ทำการย่อย น้ำตาลซูโครสให้เป็นน้ำตาล 2 ชนิดนี้ ก่อนจะนำไปใช้ประโยชน์ ต่อไปนั่นเอง โดยพบว่าน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา จะให้พลังงานถึง 16 แคลอรี

 

โดยสำหรับ น้ำตาลกลูโคส จากน้ำตาลธรรมชาตินั้น ปกติจะมีจำหน่าย เป็นกระป๋องโลหะสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน โดยถูกจัดเป็นอาหาร ควบคุมเฉพาะ ในหมวดเครื่องดื่ม ราคากิโลกรัมละ 70 กว่าบาท ซึ่งก็มีราคาสูงกว่าน้ำตาลทรายถึง 5 เท่าเลยทีเดียว จึงไม่เหมาะ ที่จะนำมาปรุงอาหาร มากนัก โดยข้อดี ของน้ำตาลกลูโคส ก็คือร่างกาย สามารถดูดซึม ไปใช้ประโยชน์ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มพลังงาน และฟื้นฟูร่างกาย ในผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียได้ดี แต่ก็มีจุดด้อยอยู่บ้าง นั่นคือ จะมีความหวานต่ำ กว่าน้ำตาลทรายถึง 40% นั่นเอง

 

น้ำตาลธรรมชาติจากน้ำตาลทรายแดง

 

เป็นน้ำตาล ที่มีกลิ่นหอมมาก แต่หวานน้อยกว่า น้ำตาลทรายขัดขาว ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ ได้จากการนำน้ำอ้อยมาเคี่ยว ตักเอาสิ่งสกปรกออก จนได้น้ำเชื่อมใส และใส่ปูนขาว ลงไปเล็กน้อย เคี่ยวต่อไป จนน้ำเชื่อมเริ่มแห้ง ก็จะได้ เป็นน้ำตาลทรายแดง เพียงแต่ จะมีการจับก้อน เล็กบ้างใหญ่บ้าง โดยทั้งนี้ น้ำตาลทรายแดง ก็มักจะมีวิตามิน และแร่ธาตุ ลดลงไปจากการเคี่ยวพอสมควร จึงไม่แนะนำให้ใช้ในปริมาณมาก ซึ่งจะนิยมนำมาใช้ทำน้ำขิงและผัดหมี่มากที่สุด

 

น้ำตาลธรรมชาติจากน้ำตาลอ้อย

 

น้ำตาลอ้อย ทำมาจากลำอ้อย โดยการนำลำอ้อย มารีดเอาน้ำอ้อยออก จากนั้นเคี่ยว ในกระทะใบบัว จนกระทั่งได้น้ำอ้อย ที่เหนียวได้ที่ ซึ่งจะมีสีน้ำตาลเข้มจัด จากนั้น นำมาหยอด ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ ก็จะได้น้ำตาลอ้อย ที่มีกลิ่นหอม นิยมนำมาปรุงอาหาร ที่เน้นเครื่องเทศเป็นหลัก เพราะน้ำตาลอ้อย จะช่วยขับกลิ่นของเครื่องเทศ ในอาหารให้หอม น่าทานยิ่งขึ้น ทั้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามินและกากใยอาหาร เป็นจำนวนมากอีกด้วย

 

น้ำตาลธรรมชาติจากน้ำตาลหม้อ น้ำตาลโตนด

 

น้ำตาลธรรมชาติชนิดนี้ จะมีรสชาติ หวานน้อยหน่อย ซึ่งก็ทำมาจาก ช่อดอกของต้นตาล นั่นเอง โดยการนำช่อดอกมาตัด ให้น้ำหวานไหลซึมออกมาจากนั้นนำน้ำหวานที่ได้ไปเคี่ยวจนงวดได้ที่ แล้วนำมากวนและตีเพื่อให้น้ำตาลขึ้นตัว จากนั้นหยอดลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ ซึ่งน้ำตาลที่ได้ก็จะเหมาะกับการนำมาทำอาหารคาวหวานที่สุด โดยเฉพาะกล้วยบวชชี แกงส้ม ลอดช่อง เป็นต้น สำหรับชื่อของน้ำตาลชนิดนี้ก็จะมีการเรียกที่แตกต่างกันไปตามแต่ภาชนะที่ใส่ เช่น น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลหม้อ เป็นต้น

 

น้ำตาลธรรมชาติจากน้ำตาลมะพร้าว

 

เป็นน้ำตาลจากธรรมชาติอีกชนิดหนึ่ง หรือที่เรียกกันว่า น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) เป็นน้ำหวาน ที่ให้ความหวานน้อย เช่นกัน โดยทำมาจาก ตาลมะพร้าว หรือช่อดอก ของต้นมะพร้าว นั่นเอง สำหรับ น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) นับว่าเป็น น้ำหวาน ที่มีความเข้มข้นของ ดอกมะพร้าว ที่ได้จาก ธรรมชาติ อย่างแท้จริง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการผลิต โดยใช้ส่วนผสมจาก ดอกมะพร้าว และไม่มีการแต่งกลิ่น ไร้วัตถุกันเสีย ไม่เติมสี อีกทั้งยังไม่มีการเจือปนจาก น้ำตาลทรายแดง ล้วนแล้ว อัดแน่นไปด้วย สารอาหาร ที่มีสรรพคุณประโยชน์อย่างยิ่งแก่ร่างกายล้วน ๆ สำหรับน้ำตาลที่ได้ก็จะมีความคล้ายกับน้ำตาลโตนดมาก แต่จะมีกลิ่นหอมน้อยกว่าและมีรสชาติที่หวานแล่มกว่าน้ำตาลโตนด หวานน้อยกว่าน้ำตาลขัดขาวอยู่มากและไม่ค่อยกลมกล่อมมากนัก สำหรับการนำมาใช้ประโยชน์ก็จะนิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารแทนน้ำตาลโตนดนั่นเอง

 

น้ำตาลธรรมชาติจากน้ำผึ้ง

 

น้ำผึ้งเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปใด ๆ ทั้งสิ้น โดยในน้ำผึ้งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลฟรุคโตส ซึ่งก็จะมีสีเหลืองอ่อน เหลืองเข้มออกเขียว สีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลไหม้ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งชนิดไหนและชนิดของเกสรดอกไม้บริเวณที่ผึ้งอาศัยอยู่นั่นเอง โดยทั้งนี้น้ำผึ้งเดือนห้าจะถือเป็นน้ำผึ้งที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้เต็มและไม่ค่อยมีน้ำเจือปน จึงนิยมนำน้ำผึ้งเดือนห้ามาใช้ประโยชน์มากกว่าน้ำผึ้งในช่วงเวลาอื่น ๆ นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีคุณประโยชน์มากมาย นอกจากนิยมนำมาทานกับขนมปังแพนเค้ก ชงกับเครื่องดื่มต่าง ๆ แล้ว ก็สามารถช่วยในการขับถ่ายและฆ่าเชื้อบางชนิดได้เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้

 

น้ำตาลธรรมชาติฟรุกโตสในผลไม้

 

น้ำตาลฟรุกโตสพบได้มากในผลไม้ ซึ่งก็จะให้ความหวานที่ 140% ของน้ำตาลทรายเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรใช้ในปริมาณเล็กน้อยต่อครั้งเท่านั้น สำหรับข้อดีของน้ำตาลชนิดนี้ก็คือ สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะเข้าไปในตับเพื่อเปลี่ยนเป็นกลูโคสก่อนจะเข้าไปสู่กระแสเลือดต่อไป แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตาลที่ได้จากผลไม้ก็อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและอ้วนได้เหมือนกัน สำหรับการนำมาใช้ประโยชน์ ก็จะนิยมใช้ปรุงอาหารคาวหวานและใส่ในเครื่องดื่มนั่นเอง

 

น้ำตาลธรรมชาติน้ำตาลมอลล์

 

น้ำตาลธรรมชาติขากมอลล์เป็นน้ำตาลอีกชนิดหนึ่งที่ให้ความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทราย ซึ่งจะประกอบไปด้วยกลูโคส 2 โมเลกุลมาเชื่อมต่อกัน พบได้มากในข้าวบาร์เลย์หรือข้าวมอลล์ที่กำลังงอก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปรุงอาหารได้เช่นกัน

 

เคล็ดลับน่ารู้ของน้ำตาลธรรมชาติ

 

ก่อนเลือกทานน้ำตาลไม่ว่าชนิดใดก็ตาม ควรทำความเข้าใจกับเคล็ดลับน่ารู้เหล่านี้ก่อน ได้แก่

 

1.หากทานน้ำตาลไม่ว่าชนิดใด มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของพลังงาน จะทำให้ระดับไขมันและคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายเพิ่มขึ้นได้

 

2.ควรสังเกตหากผลิตภัณฑ์น้ำตาลที่ซื้อใช้คำว่า Sugar จะหมายถึงน้ำตาลกลูโคส แต่หากใช้คำว่า Sugars จะหมายถึงว่ามีน้ำตาลชนิดอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งอาจเป็นซูโครส ฟรุกโตสหรือมอลโตสก็ได้

 

3.สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการโฆษณาว่าปราศจากน้ำตาล นั่นไม่ได้หมายความว่าไม่มีน้ำตาลอยู่เลย แต่หมายถึงไม่มีน้ำตาลซูโครสเป็นส่วนผสมอยู่เท่านั้น ส่วนน้ำตาลชนิดอื่น ๆ อาจมีอยู่ได้โดยที่เราไม่รู้นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนิยมใช้น้ำตาลฟรุกโตสที่เป็นน้ำตาลจากผลไม้แทนนั่นเอง

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

เมนูดับร้อนด้วยน้ำหวานดอกมะพร้าว

น้ำตาลจากธรรมชาติดีอย่างไรและมีอะไรบ้าง


Tag :


บทความที่แนะนำ