อาการอยากของหวาน (Sugar Craving) โดยพื้นฐานแล้วเป็นสัญญาบ่งบอกว่าร่างกายมีการขาดสารอาหารบางอย่าง ไม่ได้หมายถึงอยากน้ำตาลเสมอไป แต่ค่อนข้างยากที่จะระบุได้ 100% ว่าขาดตัวอะไรได้ ซึ่งส่วนมากเราจะแก้ไขโดยการกินของหวานที่มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลักแทน
เรามาดูกันว่าอาการอยากน้ำตาล (Sugar Craving) สามารถตีความว่าร่างกายขาดสารอาหารประเภทไหนได้บ้าง
1.Magnesium Deficiency ร่างกายอยากของหวานเพราะร่างกายขาดสารแมกนีเซียม โดยจากการศึกษาของ Susan Yanovski จากสถาบัน National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases พบว่า อาการหงุดหงิดฉุนเฉียว ความดันเลือดสูง นอนไม่หลับ เครียดและอยากกินของหวาน โดยเฉพาะประเภทช็อกโกเเลต มักจะเป็นอาการที่ร่างกายขาดสารแมกนีเซียม
ทั้งนี้ช็อกโกเเลตจะอุดมไปด้วยสารแมกนีเซียม แต่ปัญหาคือในช็อกโกเเลตก็มีปริมาณน้ำตาลมากตามเช่นกัน ผลที่จะได้ตามมาหลักสารแมกนีเซียมได้ถูกเดิมเต็มคือ ความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วนและเบาหวาน นักวิ่งควรปรับเปลี่ยนไปรับประทาน ช็อกโกเเลตดำแทน (Dark Chocolate) หรือจะเป็นเมล็ดธัญพืช เมล็ดฟักทอง ถั่วและผักสีเขียว
2. IMBALANCED GUT BACTERIA อาการอยากของหวานที่เกิดจากจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล โดยการทำงานของจุลินทรีย์ดีในลำไส้แย่ลง หรือมีสัดส่วนปริมาณน้อยลง ทำให้ระบบย่อยสลายอาหารทำงานได้ไม่ดี ร่างกายดึงสารอาหารมาไม่ครอบเต็มร้อย และยิ่งนักวิ่งนิยมการรับประทานอาหารที่เป็นของหวาน หรือขนมหวานบ่อยๆ จะทำให้ระบบลำไส้แย่ลงไปด้วย
จากการวิจัยของชีววิทยา ศาสตราจารย์ Jeffrey Gordon แห่ง Washington University รัฐ St. Louis. หากนักวิ่งรับแต่ของหวานและขนมหวานบ่อยๆ พบว่าจุลินทรีย์เกิดการเลือกย่อยเฉพาะอาหารหวาน และเริ่มปฏิเสธ ไม่ย่อยอาหารที่มีคุณภาพ เพื่อการป้องกัน นักวิ่งควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ เป็นสัดส่วนที่มากกว่าของหวาน และอาหารประเภท โปรไบโอติกเพิ่มเติม อย่าง โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่มีจุนลินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อลำไส้
3. Not Enough Rest อาการอยากของหวานเพราะขาดการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ สาเหตุอาการอยากของหวาน (Sugar carving) อันดับหนึ่งของนักวิ่งมาจาก การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หลังการฝึกซ้อม อย่างน้อยควรมีเวลาหลับพักผ่อน 6-7 ชั่วโมง และหากซ้อมหนักก็ควรบวกเพิ่มไปอีก 1-2 ชั่วโมงเลย เพราะการนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนในการฟื้นฟู เสริมสร้างและช่วยลดความเครียดลง
การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบเคมีในร่างกายแปรปรวน และทำให้เกิดอาการและความรู้สึกว่าร่างกายสูญเสียสารอาหารไป ต้องการพลังงานหรือสารอาการเพิ่มเติม และส่งสัญญามาในรูปความอยากน้ำตาล
กินหวานแล้วแต่ดีต่อสุขภาพ
น้ำหวานที่เราอยากแนะนำ เป็นน้ำหวานเข้มข้นที่ผลิตได้จากดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100% และมีความหวานเหมือนน้ำผึ้ง นั่นคือ "น้ำหวานดอกมะพร้าว" ( Coconut Syrup ) เป็นน้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค เหมาะกับผู้ใส่ใจในสุขภาพ จึงทำให้ "น้ำหวานดอกมะพร้าว" ( Coconut Syrup ) มีแคลอรีต่ำและดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไป จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถทานได้และเหมาะสำหรับผู้ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ
สำหรับคนชอบทานหวาน เราขอแนะนำเติมความหวานที่มาพร้อมประโยชน์แก่สุขภาพ ด้วย "น้ำหวานดอกมะพร้าว" ( Coconut Syrup ) น้ำเชื่อมจากมะพร้าวแทนน้ำผึ้ง "น้ำหวานดอกมะพร้าว" ( Coconut Syrup ) ซึ่งเป็นน้ำหวานเข้มข้นที่ผลิตได้จากดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100% หวานแท้ เหมาะแก่คนรักหวานและสุขภาพ
ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Syrup By ManNature)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก stepextra
อ่านบทความเพิ่มเติม
Tag :
บทความที่แนะนำ