อันตรายที่ตามมาหากเรากินหวานมากเกินไป แต่ น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วยได้
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

อันตรายที่ตามมาหากเรากินหวานมากเกินไป น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วยได้


ใครจะอดใจไหว ทั้งขนมหวาน น้ำหวาน หรือแม้แต่ครีมหวาน ๆ หากเรากินของหวาน หรือน้ำตาลมากเกินไปก็ควร หันมากิน น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) เพื่อสุขภาพกันนะครับ เป็นความหวานที่ได้ประโยชน์

 

     น้ำตาล เป็นเครื่องปรุงที่สามารถใส่ได้หลายอย่างจึงเกิด ของหวานขึ้นมา ส่วนตัวผมก็ชอบกินหวานเหมือนกัน แต่ผมไปหาข้อมูลมา หากเรากินหวานมากเกินไป จะมีอันตรายที่ตามมา วันนี้ เราจะมาบอกถึงสาเหตุแห่งความอันตรายที่ตามมานั้นเองละครับ

 

โทษของการทานหวาน

  • น้ำตาลเป็นสารเร่งผิวหนังเหี่ยวย่น และ ริ้วรอย ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้ผิวเสีย หน้าแก่ เพราะน้ำตาลทำปฏิกิริยาเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนทำให้อีลาสติกน้อยลง ซึ่งอีลาสติกเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวกระชับ และ มีความยืดหยุ่น เมื่ออีลาสติกถูกทำลายจะทำให้ผิวหนังแห้ง มีริ้วรอยลึก หย่อนคล้อย ทำให้ผิวหน้าแก่ก่อนวัยอันควร
  • น้ำตาลทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หากมีการบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูง ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับมากเกินความต้องการไปสะสมกลายเป็นไขมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนได้
  • น้ำตาลทำให้สมดุลของเลือดเสียไป การบริโภคน้ำตาลที่มากจนเกินไป จะทำให้อินซูลินในร่างกายผลิตออกมาเกินความจำเป็น และ ตกค้างอยู่ในกระแสเลือด มีผลต่อระบบการไหลเวียนเลือด ซึ่งถ้าหากเป็นเรื้อรังก็จะส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อเรียบบริเวณรอบ ๆ หลอดเลือดเจริญเร็วขึ้นกว่าปกติ ทำให้การไหลเวียนของเลือดเกิดการปั่นป่วน จนเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งความเสี่ยงโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
  • น้ำตาลทำให้กระดูก และ ฟันไม่แข็งแรง น้ำตาลที่มีส่วนผสมของซูโครส ถือว่าเป็นอาหารชั้นดีให้กับเหล่าแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ คราบพลัก หรือ เหงือกอักเสบได้
  • น้ำตาลทำให้ร่างกายเซื่องซึม การกินน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำแทนที่จะสดชื่น กลับทำให้กรดอะมิโนที่ชื่อว่า ทริปโตฟานเร่งเข้าสู่สมองมาเกินไป ทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมองมีผลทำให้เกิดอาการเหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง เซื่องซึมได้

 

โรคอ้วน

     การกินน้ำตาลมาก ๆ ทำให้เกิดโรคภัย เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน ไมเกรน ความดันโลหิต ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจ อาการป่วยจากโรคเหล่านี้ล้วนแล้วสาเหตุเกิดมาจากน้ำตาล เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่หมด น้ำตาลก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันทำให้ไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่าง สะโพก ก้น ขา หน้าท้อง สุดท้ายกลายเป็นโรคอ้วน

 

เสพติดน้ำตาล

     ไม่น่าเชื่อว่าน้ำตาลจะอันตรายไม่แพ้ยาเสพติดเลย ซึ่งน้ำตาลมีกลไกการออกฤทธิ์คล้ายยาเสพติดอย่างอ่อน ๆ ทำให้คุณรู้สึกอยากกินของหวานทุกวัน น้ำตาลยังทำให้เกิดการหลั่งของสารเซโรโทนินมากขึ้นซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้รู้สึกมีความสุข นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงชอบกินขนมหวาน และ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทาน ซึ่งนั่นคือ การเกิดสภาวะ เสพติดน้ำตาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วิธีจะช่วยได้ก็คือ เราต้องลดความหวาน และ ปรุงน้ำตาลแต่น้อย

 

เกิดความไม่สมดุลของเลือด

     เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลก็จะเปลี่ยนเป็นกลูโคส น้ำตาลก็จะสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปจนร่างกายเผาผลาญไม่หมดก็จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ตับ แล้วน้ำตาลที่ค้างในกระแสเลือดจะทำให้เลือดหนืดข้น จึงเกิดความไม่สมดุลในเลือด ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายไม่ดี

 

ผิวหนังเหี่ยวย่นทำให้แก่เร็ว

     น้ำตาลก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ถ้ากินน้ำตาลมากไปผิวเสีย หน้าแก่ เพราะน้ำตาลจะไปเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนทำให้อีลาสติกน้อยลง ซึ่งอีลาสติกเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวกระชับ และ มีความยืดหยุ่น เมื่ออีลาสติกถูกทำลายลงก็จะทำให้ผิวหนังแห้ง มีริ้วรอยลึก หย่อนคล้อย เพราะความยืดหยุ่นในผิวหายไป ทำให้ผิวหน้าแก่ก่อนวันอันควร

 

โรคเบาหวาน

     เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหากเรากินหวานมาก จะทำให้เกิดโรคที่ไม่อยากให้เกิดก็คือ เบาหวาน ตอนนี้คนไทยเสี่ยงเป็นเบาหวานมาก เพราะเหตุจากการกิน น้ำตาล ปรุงอาหารรสจัด จะทำให้ส่งผลน้ำตาลในเลือดสูง และ จะส่งผลเสียต่อร่างกาย

 

โรคหัวใจ

     มีงานวิจัยพบว่าการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจก่อให้เกิดโรคอ้วน ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และ น้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนั้น การบริโภคน้ำตาลปริมาณมาก โดยเฉพาะจากเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาล อาจทำให้เกิดโรคอันตรายอย่างโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือด และ ออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ

 

เสี่ยงเกิดสิว

     การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และ เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนถูกหลั่งออกมามากขึ้น ผิวหนังผลิตน้ำมันมากขึ้น และ เสี่ยงเกิดการอักเสบมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดสิวได้ โดยมีงานทดลองในกลุ่มวันรุ่น 2,300 รายที่พบว่า ผู้ที่บริโภคอาหาร หรือ เครื่องดื่มเติมน้ำตาลเป็นประจำมีแนวโน้มเสี่ยงเป็นสิวมากขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์

 

หน้าแก่ก่อนวัย

     ริ้วรอยเป็นสัญญาณของความชรา ซึ่งอาหาร หรือ เครื่องดื่มเติมน้ำตาลอาจก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ เพราะการกินอาหารประเภทนี้ปริมาณมากเป็นประจำทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อโมลกุลของน้ำตาลเข้าไปจับกับโปรตีนจะก่อให้เกิดสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า AGEs ( Advanced Glycation End-Products ) ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจน และ อีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และ จุดด่างดำตามมาได้

 

เซลล์อาจเสื่อมสภาพ

     เทโลเมียร์เป็นโครงสร้างส่วนปลายสุดของโครโมโซมที่คอยป้องกันการเสื่อมสภาพของโครโมโซม โดยทั่วไปเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น เทโลเมียร์จะหดสั้นลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้เซลล์เสื่อมสภาพ และ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้ การกินน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำอาจทำให้เทโลเมียร์หดสั้นลงเร็วขึ้น เซลล์ในร่างกายจึงอาจเสื่อมสภาพก่อนถึงเวลาอันเหมาะสม

 

     ทุกวันนี้การบริโภคแต่ละอย่างต้องคำนึงถึงสุขภาพกันมากขึ้น หากใครเป็นคนที่ชอบกินหวานทานหวาน ก็ลองหันมากิน น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) ช่วยเสริมพลังงาน และ ปรับระบบการขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) มีส่วนช่วยในการควบคุมความดันให้เป็นปกติได้ดี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง และ ป้องกันโรคเบาหวานได้ น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) ช่วยบรรเทาอาการในคนที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงได้หวาน และ ได้ประโยชน์มาก

 

สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ

ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำหวานดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Syrup By ManNature )

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- ไม่เป็นภัยต่อโรค น้ำหวานดอกมะพร้าว

- เติมหวาน ด้วย น้ำหวานดอกมะพร้าว


Tag :


บทความที่แนะนำ