อาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรต ที่พบได้ใน น้ำตาล แป้ง และเส้นใยอาหาร สามารถตรวจวัด ค่าดัชนีน้ำตาล ( GI ) ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า ค่าดัชนีน้ำตาลของ น้ำหวานดอกมะพร้าว อยู่ในระดับใดกัน
ค่าดัชนีน้ำตาล คืออะไร?
ค่าดัชนีน้ำตาล ( Glycemic Index ) หรือถูกเรียกอย่างง่ายว่า “ ค่า GI ” เป็นหน่วยวัดผลของ คาร์โบไฮเดรต ต่อระดับน้ำตาลในเลือด ว่ามีปริมาณของน้ำตาลในเลือดมากน้อยเพียงใด หลังจากที่ กินอาหารที่ต้องการวัดไปแล้ว 1 - 2 ชั่วโมง ซึ่งวัดจาก ระดับน้ำตาลในเลือด หลังรับประทาน อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ประมาณ 50 กรัม เทียบกับ น้ำตาลกลูโคส หรือขนมปังขาว ที่เป็นค่ามาตรฐาน คือ 100 ( เปรียบเทียบ คาร์โบไฮเดรตเท่ากัน กรัมต่อกรัม ) โดยอาหาร จำพวก คาร์โบไฮเดรต สามารถแบ่งชนิดได้ตาม โครงสร้างออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก คือ
1. น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ( Monosaccharide ) ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส, น้ำตาลฟรัคโทส และน้ำตาลกาแลกโทส
2. น้ำตาลโมเลกุลคู่ ( Disaccharide ) ได้แก่ น้ำตาลซูโครส, น้ำตาลมอลโทส และ น้ำตาลมอลโทส
3. น้ำตาลโมเลกุลใหญ่ หรือ พอลิแซ็คคาไรด์ ( Polysaccharide ) ได้แก่ แป้ง, เซลลูโลส และ ไกลโคเจน
โดยน้ำตาลที่มี โครงสร้างเล็กที่สุดอย่าง น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว จะสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ รวดเร็วกว่า น้ำตาลโมเลกุลคู่ และน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ ตามลำดับ เมื่อน้ำตาล มีการดูดซึมเข้าสู่ กระแสเลือดได้ไวมากเท่าใด หมายความว่า อาหารชนิดนั้น มีค่าดัชนีน้ำตาล หรือค่า GI สูง แต่ถ้าหากคาร์โบไฮเดรต แตกตัวอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ให้กลูโคสเข้าสู่ ระบบไหลเวียนเลือด อย่างสม่ำเสมอ หมายความว่า อาหารชนิดนั้น มีค่า GI ต่ำ ที่จะช่วยยืดการแตกตัว ระหว่างการย่อยอาหาร ทำให้ตอบสนองต่อน้ำตาลในเลือดได้ช้า จึงดีต่อสุขภาพของผู้รับประทาน
ค่าดัชนีน้ำตาล ( GI ) สามารถแบ่งช่วงได้ 3 ระดับ ดังนี้
1. ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ( Low GI ) : ต้องมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 55
2. ค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง ( Medium GI ) : มีค่าในระดับ 56 - 75
3. ค่าดัชนีน้ำตาลสูง ( High GI ) : มีค่าที่มากกว่า 75
ค่าดัชนีน้ำตาล ของสารให้ความหวาน แต่ละชนิด
น้ำตาลทราย ( Granulated sugar ) สารให้ความหวานที่ได้มาจาก การทำน้ำอ้อย ให้ตกผลึกเป็นน้ำตาล และผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ โดยทำการกำจัด กากน้ำตาล ออกไป ทำให้ได้ น้ำตาลที่มีแค่ก้อนผลึกสีขาว มีค่าดัชนีน้ำตาล 64 ( ค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง )
น้ำผึ้ง ( Honey ) สารให้ความหวานที่เป็นผลิตผลของ น้ำหวานจากดอกไม้ และจากแหล่ง น้ำหวานอื่น ๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ มีค่าดัชนีน้ำตาลที่ 58 ( ค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง )
คาราเมล ( Caramel ) น้ำตาลที่ผ่านความร้อน จากปฏิกิริยาการเกิดคาราเมล ทำให้น้ำตาลมีสีน้ำตาลเข้ม มีความหนืด และความเหนียวข้น มากยิ่งขึ้น มีค่าดัชนีน้ำตาลที่ 65 ( ค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง )
คอร์นไซรัป ( Corn Syrup ) น้ำเชื่อมที่ได้มาจาก ข้าวโพด โดย คอร์นไซรัป ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 286 แคลลอรี และมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 90 ( ค่าดัชนีน้ำตาลสูง )
น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) เป็นน้ำหวานที่ได้มาจาก ช่อดอกอ่อนของมะพร้าว เอามาทำน้ำตาลได้นั้น จะต้องเป็น ดอกที่ยังไม่มีการผสม หรือมีเปลือกแข็งห่อหุ้ม แล้วนำเอาน้ำตาลที่ได้มาแปรรูป ให้มีลักษณะเป็นผง เพื่อให้ผู้บริโภครับประทานได้ง่าย และสารให้ความหวานชนิดนี้ ถือได้ว่า มาจากธรรมชาติ 100% ไม่ใช่วัตถุกันเสีย ไม่เติมสี ไม่ใส่ กลิ่น รวม ทั้งไม่เจือปน น้ำตาลทรายแดง โดยค่าดัชนีน้ำตาลของ น้ำหวานดอกมะพร้าว อยู่ที่ 35 ( ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ )
หากเปรียบเทียบกับ สารให้ความหวานชนิดอื่น ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้า น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) จัดได้ว่า เป็นสารให้ความหวานที่มี ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำที่สุด แถมน้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut Syrup ) 1 ช้อนชายังให้พลังงาน เพียง 15 กิโลแคลอรี่ จึงดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำหวาน ดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Syrup By ManNature )
อ่านบทความเพิ่มเติม
Tag :
บทความที่แนะนำ